เยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและซับซ้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านรัฐศาสตร์และการเมือง โดยหนึ่งในฉากที่สำคัญฉากหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติที่เป็นเมืองหลวงของเบียร์ชาตินี้คือการรวมประเทศในปี ค.ศ.1990 (พ.ศ.2533) ที่ประเทศเยอรมนีตะวันออกและตะวันตกได้พบกันอีกครั้ง หลังจากเวลากว่า 4 ทศวรรษที่ถูกแยกจากกัน การรวมประเทศครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การรวมชาติทางสัญลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นพยานแห่งการแสวงหาเสรีภาพของตนเองในฐานะรัฐเอกราชที่มีอธิปไตยเป็นของตนเอง
รูปภาพจาก https://twitter.com/visitberlin/status/1590374935725228036/photo/1
พื้นหลังทางประวัติศาสตร์
หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีถูกแบ่งการปกครองออกเป็นสี่พื้นที่หลักโดยมีผู้ดูแลทั้งสี่ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ในฐานะฝ่ายประชาธิปไตยและสหภาพโซเวียต ซึ่งความตึงเครียดระหว่างผู้สนับสนุนฝ่ายตะวันตกและสหภาพโซเวียตนำไปสู่การแบ่งประเทศเยอรมนีออกเป็นสองประเทศในปี ค.ศ.1949 (พ.ศ.2492) ได้แก่ สาธารณรัฐเยอรมนี (BRD: Bundesrepublik Deutschland) หรือเยอรมนีตะวันตกและสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี (DDR: Deutsche Demokratische Republik) หรือเยอรมนีตะวันออก
ผ้าม่านเหล็ก (Der Eiserne Vorhang)
ความแตกต่างทางอุดมการณ์ระหว่างเยอรมนีตะวันออกและตะวันตกทำให้มีการแบ่งแยกการลักษณะการปกครองที่ชัดเจนและลึกซึ้งมากขึ้น ทำให้มีการก่อสร้างกำแพงเบอร์ลินในปี ค.ศ.1961 (พ.ศ.2504) เพื่อป้องกันการหนีออกของประชาชนเยอรมนีตะวันออกไปยังตะวันตก ช่วงเวลานี้มักถูกเรียกว่า “ม่านเหล็ก” หรือในภาษาเยอรมันคือ der Eiserne Vorhang ซึ่งแยกยุโรปตะวันออกจากตะวันตก
รูปภาพจาก https://www.badische-zeitung.de/der-eiserne-vorhang-per-velo
หนทางสู่การรวมชาติ (Der Weg zur Wiedervereinigung)
ในทศวรรษ 1980 (พ.ศ.2523-2532) การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหภาพโซเวียตและยุโรปตะวันออก ด้วยนโยบาย Glasnost และ Perestroika ภายใต้การนำทางของมิฮาอิล กอร์บาชอฟ (Michail Gorbatschow) ทำให้อำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มสลายตัว ทำให้ DDR เกิดความยากลำบากทางเศรษฐกิจและยังผลให้เกิดการประท้วงของประชาชนที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ
รูปภาพจาก https://www.dailysabah.com/world/europe/last-soviet-leader-gorbachev-who-ended-cold-war-dies-aged-92
การรวมชาติอย่างเป็นทางการ (Die formelle Wiedervereinigung)
หลังจากการเจรจาและการเตรียมตัวที่ยาวนาน เยอรมนีกลับมารวมชาติกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ.1990 (พ.ศ.2533) ทำให้ประเทศเยอรมนีสองประเทศได้กลับมารวมกันเป็นหนึ่ง และกรุงเบอร์ลินก็ได้กลับมากลายเป็นเมืองหลวงของเยอรมนีอีกครั้ง
การรวมชาติเยอรมนีเป็นกระบวนการทางรัฐศาสตร์การเมืองและการปกครองที่ซับซ้อนและอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เป็นบทเรียนที่ควรค่าให้กับประชาชนเยอรมันและประชาคมโลกยุคหลังได้ศึกษาและตระหนัก ถึงการนำเอาความแตกต่างทางอุดมการณ์ เศรษฐกิจและสังคมมาแข่งขันกันระหว่างมหาอำนาจทั้งสองฝ่าย โดยเอาเสรีภาพของประชาชนมาเป็นตัวประกัน
รูปภาพจาก https://www.zdf.de/dokumentation/zdfinfo-doku/das-war-die-ddr-aufbruchstimmung-und-enttaeuschung-1949-1961-100.html
แหล่งอ้างอิง
- “Germany 1945-1990: A Parallel History” by Yan Morin.
- “The Fall of the Berlin Wall: The Revolutionary Legacy of 1989” by Jeffrey A. Engel.
- German Federal Agency for Civic Education (Bundeszentrale für politische Bildung)