ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เยอรมนีได้รับความสนใจจากคนไทยจำนวนมากที่ต้องการย้ายไปอยู่และทำงานที่นั่น ด้วยชื่อเสียงของประเทศในด้านคุณภาพชีวิตที่ดี ระบบการศึกษาที่มีมาตรฐานสูง และโอกาสทางอาชีพที่หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวที่น่ากังวลเกี่ยวกับอัตราอาชญากรรมและปัญหาผู้ลี้ภัย โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยโดนฉกนาฬิกาไปต่อหน้าต่อไป ซึ่งอาจทำให้คนไทยบางคนลังเลที่จะตัดสินใจ วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่า เยอรมนียังเป็นประเทศที่น่าย้ายไปอยู่สำหรับคนไทยหรือไม่

ประเด็นแรกที่หลายคนกังวลคือ อัตราอาชญากรรม ตามสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งสหพันธรัฐเยอรมนี (BKA) ในปี 2022 พบว่า อัตราอาชญากรรมโดยรวมลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีคดีที่ถูกบันทึกทั้งหมด 5.05 ล้านคดี ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 1992 นี่เป็นสัญญาณที่ดีว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยและการบังคับใช้กฎหมายของเยอรมนีมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ภาพที่เราเห็นอาจจะดูสวนทางกัน แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าโซเชียลมีเดียทำให้ เราสามารถเข้าถึงสื่อได้มากกว่าสมัยก่อนนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม มีบางประเภทของอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น เช่น อาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน นี่เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเยอรมนี แต่เป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศกำลังเผชิญ สิ่งสำคัญคือ เราต้องระมัดระวังการใช้งานออนไลน์และปกป้องข้อมูลส่วนตัวให้ดี

ประเด็นที่สองคือเรื่องผู้ลี้ภัย ในปี 2015 เยอรมนีได้เปิดรับผู้ลี้ภัยกว่า 1 ล้านคน ส่วนใหญ่มาจากซีเรียและตะวันออกกลาง ซึ่งสร้างความกังวลให้กับประชาชนบางส่วนในเรื่องของการปรับตัวทางวัฒนธรรมและผลกระทบต่อตลาดแรงงาน อย่างไรก็ดี รัฐบาลเยอรมนีได้ลงทุนอย่างมากในโครงการบูรณาการผู้ลี้ภัย ตามรายงานของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเยอรมัน (DIW) พบว่า ในปี 2022 มีผู้ลี้ภัยกว่า 400,000 คนที่สามารถหางานทำได้ ซึ่งช่วยเติมเต็มช่องว่างในตลาดแรงงานของประเทศ

นอกจากนี้ การที่เยอรมนีเปิดรับผู้ลี้ภัยยังสะท้อนถึงค่านิยมด้านมนุษยธรรมและความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยที่มีจิตใจเมตตาและเห็นคุณค่าของความหลากหลายทางวัฒนธรรมน่าจะชื่นชม

แม้จะมีความท้าทายบ้าง แต่เยอรมนียังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ตามดัชนีคุณภาพชีวิต (Quality of Life Index) ในปี 2023 เยอรมนีอยู่ในอันดับที่ 9 จาก 80 ประเทศทั่วโลก ด้วยคะแนนสูงในด้านความปลอดภัย ระบบสาธารณสุข และการคมนาคม

สำหรับคนไทยที่สนใจเรื่องการศึกษา เยอรมนียังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม มหาวิทยาลัยหลายแห่งไม่เก็บค่าเล่าเรียนหรือเก็บในราคาที่ต่ำมาก และมีหลักสูตรนานาชาติมากมาย ในปีการศึกษา 2021/2022 มีนักศึกษาต่างชาติในเยอรมนีกว่า 350,000 คน ซึ่งรวมถึงนักศึกษาไทยด้วย

ด้านเศรษฐกิจ แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากโควิด-19 และสงครามในยูเครน แต่เยอรมนีก็ยังคงเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ตามข้อมูลของธนาคารโลกในปี 2024 ทำให้มีโอกาสการจ้างงานที่หลากหลาย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิต เทคโนโลยี และการวิจัย

สุดท้ายนี้ ขอย้ำว่าการตัดสินใจย้ายไปอยู่ต่างประเทศเป็นเรื่องส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความพร้อมของแต่ละคน แต่ข้อมูลและสถิติชี้ให้เห็นว่า เยอรมนียังคงเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตสูง มีความปลอดภัย และมีโอกาสที่ดีสำหรับคนไทยที่ต้องการความก้าวหน้าในชีวิต ความท้าทายต่าง ๆ ที่มีอยู่นั้น ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่เอาชนะไม่ได้ แต่เป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับสังคมที่เปิดกว้างและพัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างเยอรมนี